“บนนามบัตร ผมเป็น CEO..
วันนี้เป็นวันที่ผมได้รู้จักซุปเปอร์โปรแกรมเมอร์คนนี้ที่จะกลายเป็นไอดอลผมอีกคนนึง ใช่ครับ โปรแกรมเมอร์! เขาไม่ใช่แค่ CEO ของบริษัท Nintendo…
วันนี้เป็นวันที่ผมได้รู้จักซุปเปอร์โปรแกรมเมอร์คนนี้ที่จะกลายเป็นไอดอลผมอีกคนนึง ใช่ครับ โปรแกรมเมอร์! เขาไม่ใช่แค่ CEO ของบริษัท Nintendo นะครับ!
(รีรันมาจาก blog wordpress ที่เคยเขียนไว้ตั้งแต่ 13/7/2015 แล้ว กำลังลองย้ายมา Medium นี่ดู)
วันนี้มีแถลงข่าวจากนินเทนโดว่าคุณอิวาตะ ซาโตรุ (CEO Nintendo) ได้จากไปตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 2015 ครับ ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วย แต่พูดตรงๆคือผมไม่รู้จักเขามาก่อนเลย (และตกใจที่หลายๆคนเหมือนจะรู้จักเขาคนนี้ดีจากโพสต์ที่เห็นวันนี้ ผมไปอยู่ไหนมานะ) บางแหล่งแชร์ภาพยังกับว่าเขาทำเกมตั้งแต่ Mario ยัน Zelda ผมก็เลยไปดูตามเว็บ มาครับว่าความจริงเป็นอย่างไร และเขาคนนี้ได้ฝากผลงานอะไรไว้บ้างครับ
Nintendo DS และ Nintendo Wii โปรเจคชุบชีวิตบริษัทจากยุค Gamecube
ปรากฏว่าเขาคนนี้เป็นหัวหอกสำคัญที่เปลี่ยนยุคเครื่องพกพาจาก Gameboy ไปเป็น DS ครับ ซึ่งตอนนั้น Gamecube ทำรายได้ไม่ดีเท่าไหร่ บริษัทกำลังแย่เลย
ซึ่งเครื่อง DS นี่ผมยังจำได้อยู่เลยตอนที่ได้ข่าว “Dual Screen” มันเป็นอะไรที่ novel มาก แถมยังมีจอสัมผัสอีก แทบนึกไม่ออกเลยว่าเกมแบบไหนจะทำมาเล่นกับสองจอได้.. แต่พอเกมเริ่มออกมาก็เข้าใจ เออ สนุกจริงๆ จอสัมผัสก็โคตร responsive ยิ่งกว่าโทรศัพท์รุ่นไหน และ Emu ยากซะด้วย.. ในยุคที่ผมและเพื่อนๆนั่งเล่น emu เกม GBA อยู่ พอ DS มันต้องทัช และมีสองจอ มันก็เล่นในคอมยากนี่สิครับ นี่ทำเอาอยากได้เครื่องจริงเลย ความสำเร็จของ DS ยังไม่ทำให้เขาพอใจ เขาได้นำโปรเจค Wii ต่อด้วย ซึ่งต่อมากลายเป็นเครื่องเกมสังสรรค์ประจำบ้าน ตรงตามสไตล์นินเทนโดเลยทีเดียวครับ
Nintendo Direct
เป็น CEO ก็จริงแต่เขาออกมาเป็นตัวแทนพูดคุยตอบคำถามด้วยตัวเองใน Nintendo Direct เลยครับ ผมไม่เคยดู ก็คงพูดอะไรมากไม่ได้ว่าสุดยอดแค่ไหน (แต่มีเคยมา Unbox WiiU ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ก่อน WiiU จะวางขายซะอีก ดับฝันเว็บเกมทั่วโลก 555) ดังนั้นขอย้อนเวลากลับไปอีกหน่อยครับ
CEO โปรแกรมเมอร์ตัวจริง : Balloon Fight, Kirby, Earthbound (MOTHER 2) ฯลฯ
ที่เจ๋งสุดๆสำหรับผมคือ เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ตัวจริงเลยล่ะครับ ด้วยความที่ผมก็เป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนกันเลยชอบตรงนี้มาก
ข่าวหลายๆแหล่งตอนนี้ชวนให้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นบิดาผู้ออกแบบซีรี่ย์อย่าง Balloon Fight, Kirby, Earthbound แต่จริงๆแล้วเขาเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ไม่ใช่ “เพียง” โปรแกรมเมอร์ แต่เป็นโคตรอภิมหาเทพโปรแกรมเมอร์ คือถึงเขาจะไม่ได้ออกแบบเกมเหล่านี้ แต่เขาได้ช่วยทำให้โปรเจคเป็นจริงขึ้นมาได้ในที่สุดครับ Kirby นั้นเขาเป็นคนออกความเห็นด้วยว่าอยากได้ Platformer ที่ทุกๆคนเล่นได้ ตอนนั้นเขาเรียนจบแล้ว กำลังทำงานที่ HAL Laboratory ครับ
ส่วน Earthbound เนี่ยคือภาคต่อของ MOTHER แต่ทีมคนทำไม่ใช่ทีมเดิมครับ คุณอิวาตะเลยได้รับงานหนักอีกครึ่งหนึ่ง เมื่อทีม APE (ภายหลังคือ Creatures Inc. ที่ทำเกมโปเกม่อนเหมือนกันกับ Game Freaks) ต้องพึ่งพา HAL Laboratory หลายครั้ง แล้วทีมของคุณอิวาตะไม่เคยพูดเลยว่าเราทำไม่ได้
“ถ้าโปรแกรมเมอร์พูดว่าเราทำไม่ได้แล้วล่ะก็ เกมในอนาคตก็จบสิครับ สิ่งที่เราทำในวันนี้ได้มันก็คือการป้องกันไม่ให้อนาคตนั้นเกิดขึ้น แทนที่จะบอกลูกค้าว่าทำไม่ได้ เราบอกลูกค้าว่า จาก requirement แล้ว นี่คือสิ่งที่เราโปรแกรมเมอร์สามารถสื่อออกมาได้ อะไรแบบนี้ไม่ดีกว่าหรือครับ” อิวาตะกล่าวไว้ในบทความของ Famitsu
สำหรับใครที่จำไม่ได้ว่า Balloon Fight คืออะไร มันคือเกมลูกโป่งสองลูกผูกหลังแล้วลอยไปลอยมา แล้วก็มีด่านโบนัสที่ฉากไหลไปเรื่อยๆแล้วถ้าชนดาว (ดาวหรือสายฟ้าฟระ) ทีเดียวตายนั่นแหละครับ 555
Pokemon Stadium
หลังจากที่เกม Pokemon Red/Green ประสบความสำเร็จในเครื่องเกมบอย บ. Game Freaks ก็อยากทำ Pokemon Stadium ลงเครื่อง N64 ขึ้นมาซะนี่ (ทำเอาแผนแปลเกม Red/Green กับแผนทำ Gold/Silver เลื่อนออกไป) ซึ่งหน้าที่แรกคือ.. เอาระบบต่อสู้จากภาค Red/Green มาลง N64 ครับ ถ้าอยากให้ท่าโจมตีอะไรๆมันส่งผลเหมือนเดิมอะนะ
ตอนนั้นคุณอิวาตะขึ้นเป็นประธานของ HAL Laboratory ที่เขาทำงานให้สมัยเรียน และเข้าเป็นพนักงานหลังเรียนจบ ยังไม่ได้เข้า Nintendo ครับ แต่ไปๆมาๆ กลายเป็นตัวกลางระหว่าง Game Freaks กับ Nintendo ซะนี่ เขาคิดว่า Game Freaks ควรจะจดจ่อกับ Gold/Silver มากกว่า เขาเลยมาช่วย
คนที่โปรแกรมระบบต่อสู้ Red/Green บอกว่าเขาใช้เวลานานพอสมควรถึงจะปะติดปะต่อกันได้ แต่เมื่อโค้ด Red/Green ไปอยู่ในมือของคุณอิวาตะ แค่ 1 อาทิตย์ ระบบต่อสู้ทั้งแผงก็เวิคในเครื่อง N64 เรียบร้อย โดยที่ระบบเก่าไม่มี Documentation อะไรทั้งสิ้น ต้องแกะจากโค้ด Gameboy ที่เป็นภาษาระดับ Assembly ของเครื่อง (ไม่ใช่ภาษาที่อ่านออกเป็นภาษาอังกฤษ) คุณอิวาตะ นั่ง reverse engineer จนรู้ระบบต่อสู้ทั้งหมดจากโค้ดสดได้
“ไอ้หมอนี่มันประธานบริษัทหรือโปรแกรมเมอร์กันแน่เนี่ย!” คุณโมริโมโตะจาก Game Freaks ได้กล่าวไว้ใน interview ของ Pokemon HG/SS สิบกว่าปีต่อมา
Pokemon Gold/Silver เกม Pokemon ในตำนานของผม กับ “Compression Tools”
ใครได้เล่น Pokemon Gold/Silver แล้ว มันคือภาคที่สนุกที่สุดสำหรับผมครับ หนึ่งในความประทับใจไม่รู้ลืมคืออะไรรู้มั้ย คือผมแมร่งชนะ Pokemon League แล้วไง.. จบเกม แล้วไงต่อ เอ๊ะ ได้ไอเทมใหม่ อ๊ะ ในแผนที่ทางขวาเหมือนจะมีอะไรโผล่มา ลองไปดูหน่อยซิ…. เฮ้ย อีเหี้ย! นี่มันทวีป Kanto ภาคเก่าเหรอ กดดูแผนที่อีกที เหยดเข้!!! นี่มันภาค Red!! เฮ่ย มันต้องไปได้ไม่ไกลแน่ๆ… เหี้ย!! ไปสู้ได้ทุก Gym เก่าเลย โปเกม่อนตัวเก่าๆเต็มเลย! หลังจากที่เดินทางตบหัวหน้ายิมจนหมด.. เอ๊ะ ภูเขา? โบนัสดันเจี้ยนยังมีอีกเหรอเนี่ย!!!
เดินฝ่าดงตีนโปเกม่อนไปถึงยอดเขา.. และแล้วฉาก ที่ยังทำให้ผมขนลุกมาจนถึงทุกวันนี้ก็ปรากฎขึ้น มีชายคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่ที่ยอดเขา.. ด้วยออร่าอำมหิต ทำให้ผมถึงกับต้องเปิดเมนูมาเซฟทันที เมื่อกดสำรวจ ข้อความที่ขึ้นมามีเพียงแค่ “…….” แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น
PKMN TRAINER RED wants to battle!
http://shad0w8.deviantart.com/art/Atop-Mt-Silver-389451683
อีเหี้ยยยยายฟหยดายหกดฟวดา เท่สาดดดด ได้ดวลกับแชมเปี้ยนภาคที่แล้ว!! แถมใช้โคตรปิกาจูเหมือนในการ์ตูนด้วย โอ้ยยยยหยดย (หลังจากนั้นคือจบเกมจริงๆ ของจริงๆ) คือไม่มีภาคไหนจบ epic เท่านี้อีกต่อไปแล้ว (เว้นแต่ HeartGold/SoulSilver อะนะ) คือฉากนี้มันเท่สุดตรีน ถึงตัวละครจะเป็น pixel โง่ๆ แต่เชื่อว่าผู้เล่นหลายต่อหลายคนเห็นเป็นฉากยิ่งใหญ่แบบภาพที่ผมเอามานี่แน่นอน ลองเซิจ Pokemon Gold Silver Mt. Silver Vs. Red ดู จะเห็นภาพแฟนอาร์ตมากมายเลยครับ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผมบ้าอยู่คนเดียวแน่นอน
แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณอิวาตะน่ะเหรอครับ คือตอนนั้นที่ Game Freaks ทำให้ตลับเกมของเครื่อง Gameboy Color เต็มแล้วทั้งๆที่เกมยังเสร็จไปแค่ครึ่งเดียวเอง ด้วยความที่โปรแกรมเมอร์น้อยมากเพียงแค่ประมาณ 4 คนก็ไม่รู้จะทำยังไง หรือจะต้องปล่อยเกมแบบครึ่งๆกลางๆ
ทันใดนั้นคุณอิวาตะก็เข้ามาช่วยแล้ว compress ส่วน graphics ของเกมทั้งเกมจน Game Freaks อึ้ง มีพื้นที่ทำได้จนจบเกมแล้วยังมีที่พอที่จะยัดทวีป Kanto จากภาคเก่าเข้าไปทั้งทวีปได้ พร้อมที่จะผจญภัยต่อหลังจากจบเกมแล้ว… คือโหดเชี่ยๆ
(อ้อ หลังจากได้ตำแหน่งบริหารใน Nintendo ไม่นาน หน้าที่แรกของเขาคือการดูแลและก่อตั้ง The Pokemon Company นี่เอง เพราะเฟรนไชส์นี้ ไม่ใช่แค่เกมอีกต่อไป จะมีการ์ด มีอนิเมที่แปลภาษาไปทั่วโลก มีของเล่น และมีแม้กระทั่งโปเกมอนเซ็นเตอร์ จึงควรต้องมีบริษัทใหม่มาดูแลเรื่องพวกนี้ทั้งหมดครับ)
ปิดตำนานตำแหน่ง Engineer : Super Smash Bros. Melee
เขาได้ขึ้นมาเป็น General Manager of Corporate Planning ของนินเทนโดแล้ว การโปรแกรมมันไม่ใช่หน้าที่ของเขาเล้ย!
ในตอนนั้นฝั่ง Gamecube มีท่าทีไม่ดีเมื่อเกม Super Smash Bros. Melee กำลังจะไม่ทัน deadline เขาก็เลยไปสวมตำแหน่ง “Head of debugging” ที่ HAL Lab ที่ทำงานเก่าของเขาซะอย่างนั้น
เดินดุ่ยๆกลับเข้าไป เขาไปนั่งอ่านโค้ด! นั่งทำ Code review.. อ้อ ตรงนี้นี่เอง.. แล้วก็นั่งแก้บัค แล้วนั่งอ่าน bug report ที่ทาง Nintendo ส่งกลับมา หาตำแหน่งบัคให้เสร็จหมดแล้วสั่งทีมให้ไปแก้ตรงจุดที่เจอ และแล้ว Super Smash Bros. Melee ก็ปล่อยได้ตรงตามเวลา!! เขาบอกว่านั่นเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ได้ทำงานเป็นวิศวกรโค้ดดิ้ง “ในสนามรบ” คือหมายถึง นั่งอยู่ด้วยกันกับทีม นั่งพิมพ์และแก้โค้ดไปด้วยกัน
จะมีอะไรที่เท่ไปกว่านี้อีก แล้วมันใช่สิ่งที่คนอยู่ตำแหน่งบริหารควรทำมั้ยเนี่ย 5555
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้โปรแกรมอีกเลย?
http://wiiudaily.com/wp-content/uploads/2013/06/Iwata2.jpg?44d51a
แม้ว่าหลังจากที่เขามารับตำแหน่งผู้บริหารแล้ว แต่จากบทความพบว่าเขาไม่ได้เลิกโปรแกรมเลย จริงอยู่ที่ตอนวันทำงานถ้ามานั่งโปรแกรมบริษัทก็คงไม่ไปไหน แต่ทุกครั้งที่ถึงวันหยุด เขาจะนั่งโปรแกรมที่บ้านแล้วเอาผลงานมาอวดเพื่อนร่วมงานในวันจันทร์เสมอ เขาบอกว่าได้เห็นรอยยิ้มของเพื่อนร่วมงาน มันเป็นความสุขของเขา
จะบอกว่าเขาเป็น CEO ที่ความรู้ Technical เยอะที่สุดคนหนึ่งก็คงไม่แปลกเลยครับ
น่าเสียดายที่ผมเพิ่งจะได้รู้จักเขาคนนี้ในคืนนี้นี่เอง แต่เขาก็กลายเป็นฮีโร่โปรแกรมเมอร์คนหนึ่งของผมไปแล้วครับ..
อ้างอิงทั้งหมด
http://www.n-sider.com/contentview.php?contentid=280
http://www.polygon.com/2015/7/12/8940053/nintendo-president-satoru-iwata-dies-at-55
http://www.polygon.com/2013/7/5/4496512/why-nintendos-satoru-iwata-refuses-to-lay-off-staff
http://iwataasks.nintendo.com/interviews/#/wii/nsmb/1/5
https://en.wikipedia.org/wiki/EarthBound
Weekly Famitsu — September 9, 1994
This week’s issue introduces the MOTHER 2 Times: a weekly section in the magazine that ran for eight consecutive weeks…yomuka.wordpress.com